วิธีการล้างแคช CloudFront (Clear Cache)

วิธีการล้างแคช CloudFront (Clear Cache)

การสร้าง Invalidation ใน CloudFront จะทำให้สามารถดึง Cache ข้อมูลที่มีการแก้ไขล่าสุดขึ้นมาแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ด้วยวิธีการง่ายๆ เพียงแค่ไม่กี่คลิก ก็จะทำให้ CloudFront ของคุณนั้นแสดงผลได้อย่างรวดเร็ว ทันใจ และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
Clock Icon2022.02.11

この記事は公開されてから1年以上経過しています。情報が古い可能性がありますので、ご注意ください。

ครั้งนี้จะมาแนะนำวิธีการล้างแคช CloudFront (Clear Cache)

สร้าง Invalidations ใน CloudFront

การสร้าง Invalidations จะช่วยทำให้ CloudFront สามารถดึงไฟล์ที่ Deploy มาอัพเดทเป็น Cache และแสดงผลได้

เข้ามาที่ Service CloudFront โดยค้นหา?︎ CloudFront» เลือกCloudFront
จากนั้นเริ่มทำการสร้าง Invalidations ได้เลย
search_cloudfront

มาที่หน้า CloudFront ตรงหัวข้อ Distributions แล้วค้นหาชื่อของเรา เช่นs3-cf-chawish-webจากนั้นคลิกเข้าไปได้เลย
invalidation-1

มาที่หัวข้อInvalidationsแล้วคลิกCreate Invalidationที่ด้านบนหรือล่างก็ได้
invalidation-2

ในส่วนของ Object paths ให้ตั้งค่าดังนี้:
» Add object paths:/*
» คลิกCreate Invalidation

/* คือภาษาคอมพิวเตอร์ที่หมายความว่า จะทำการดึงทุกไฟล์ที่มีการ Deploy ขึ้นไปบน Cache server และเมื่อมีการ Deploy เว็บไซต์เข้าไปใน Amazon S3 ตัว CloudFront ก็จะทำการดึงไฟล์ทุกไฟล์มาอัพเดทเป็น Cache ให้หมดนั่นเอง
invalidation-3

เมื่อเสร็จแล้วจะได้หน้าตาแบบนี้
invalidation-4

กลับมาที่หน้าเว็บไซต์ แล้วคลิกขวาที่หน้าเว็บ เลือกInspect/ตรวจสอบหรือกดF12ก็ได้
invalidation-5

ต่อไปให้ตรวจสอบดังนี้
Reload
เลือกNetwork
เลือกHeaders
คลิกที่ URL ของเรา
เลื่อนมาที่หัวข้อ Response Headers แล้วดูที่X-cache: Miss from cloudfront
X-cache: Miss from cloudfront คือสถานะที่บอกว่าตัวเว็บไซต์ไม่ได้ดึง Cache file มาแสดงผล
invalidation-6

Reload อีกครั้ง เลื่อนมาที่หัวข้อ Response Headers แล้วดูที่X-cache: Hit from cloudfront
X-cache: Hit from cloudfront คือ เมื่อสร้าง Invalidation เสร็จแล้วให้รอสักครู่ จากนั้นเข้ามาดูอีกครั้ง ก็จะเห็นว่าในส่วนของ X-Cache จะเป็น Hit from cloudfront เพราะว่าตัว CloudFront ได้ทำการ Backup ข้อมูลล่าสุดที่ทำการแก้ไขไปขึ้นมาเป็น Cache ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะสามารถดึง Cache ข้อมูลขึ้นมาแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
invalidation-7

เพียงเท่านี้การแก้ไขไฟล์และ Deploy ข้อมูลเข้ามายัง Amazon S3 ผ่าน CloudBerry Explorer เสร็จเรียบร้อยแล้ว
invalidation-8

สรุป

การสร้าง Invalidations ใน CloudFront เป็นการ Backup ข้อมูลล่าสุดที่ทำการแก้ไขไปขึ้นมาเป็น Cache ข้อมูล แล้วจะทำให้สามารถดึง Cache ข้อมูลขึ้นมาแสดงผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพนั่นเอง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Share this article

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.